วันอังคารที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2562

มาทำความรู้จักกับ สภาพผิวหน้า และประเภทของผิว

มาทำความรู้จักกับ สภาพผิวหน้า และประเภทของผิว

ผิวธรรมดา (Normal Skin)

“ผิวธรรมดา” เป็นคำที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย บ่งบอกถึงผิวที่มีความสมดุล คือไม่แห้งจนเกินไป และ ไม่มันจนเกินไป หรือในทางวิทยาศาสตร์ใช้คำว่า “eudermic” แทนผิวที่มีสุขภาพดี


ลักษณะของผิวธรรมดา: 
  • ผิวไม่มันและไม่แห้งจนเกินไป
  • ผลิตน้ำมันได้สมดุล
  • รูขุมขนเล็ก ไม่กว้างมาก รูขุมขนที่มองเห็นได้ชัดเจนมีน้อย
  • ไม่มีปัญหาเรื่องริ้วรอยหรือสิว
  • มีการไหลเวียนโลหิตที่ดี
  • ผิวเรียบเนียน
  • มีปัญหาที่เกี่ยวข้องกับผิวหน้าน้อย โดยเฉพาะเรื่องกระ ฝ้า หรือสิว
  • ผิวหน้ามักไม่แพ้อย่างรุนแรง ถ้าแพ้ก็แพ้แบบเล็กน้อย
  • เห็นได้ชัดเจนว่าผิวหน้ามีความกระจ่างใส
วิธีเช็ค เคยเห็นผิวของเด็กใช่มั้ยคะ นั่นแหละค่ะ เพราะผิวของเด็กเป็นตัวแทนของผิวธรรมดาที่สามารถสังเกตได้ง่ายที่สุด

ผิวแห้ง (Dry Skin)

          “ผิวแห้ง” เป็นผิวที่ละเอียดบอบบาง และ เกิดริ้วรอยได้ง่าย เนื่องจากมีการผลิตน้ำมันที่น้อยกว่าผิวธรรมดา อันเป็นผลมาจากการขาดความมัน, ผิวแห้ง ขาดกรดไขมันที่จำเป็นในการรักษาความชุ่มชื้น และสร้างเกราะป้องกันผิวจากสิ่งกระทบจากภายนอก เพราะผิวขาดกรดไขมันที่จำเป็นในการรักษาความชุ่มชื้น ทำให้ความรู้สึกหยาบกร้านและดูหมองคล้ำได้ง่าย 

           "ผิวแห้ง" มักจะแห้งกร้าน แตก ลอก หรืออาจอักเสบและคันได้ง่าย ในกรณีที่ผิวแห้งมาก ๆ ผิวหนังมักจะหลุดลอกออกเป็นแผ่น ๆ ซึ่งลักษณะผิวแบบนี้ เป็นลักษณะผิวที่บอบบางเป็นอย่างมาก

ลักษณะของผิวแห้ง
  • ผิวดูขาดน้ำ แห้งกร้าน
  • ผิวลอกเป็นขุย
  • มีอาการคันบ่อย
  • รูขุมขนเล็ก ละเอียด
  • มีริ้วรอยก่อนวัย
  • มักมองไม่เห็นรูขุมขนเลย หรือเห็นได้น้อยมาก ๆ
  • ผิวไม่ค่อยกระจ่างใส แห้งกร้าน
  • มีผื่นแดง ๆ หรือรอยแดง ๆ ที่ผิว
  • ผิวมีความยืดหยุ่นน้อย
  • เห็นรอยเหี่ยวย่น ตีนกา ได้อย่างชัดเจน
วิธีเช็ค เวลาล้างหน้าแล้วรู้สึกหน้าแห้งตึง และเมื่อซับหน้าด้วยกระดาษซับมัน ไม่พบน้ำมันถูกดูดซับ

5 ปัจจัยเสริมที่ทำให้ปัญหาที่เกิดจากผิวแห้ง ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น


💨ปัจจัยที่ 1 : สภาพอากาศ โดยเฉพาะอากาศเย็น แห้ง หรือมีลมพัดแรง จะยิ่งทำให้ผิวของเราแห้งตึง บางครั้งถึงกับ ยิ้มไม่ออก กันเลยทีเดียวนะคะ ^^


🌤ปัจจัยที่ 2 : แสงแดด รังสียูวี อันนี้ตัวการเลยคะ เป็นตัวที่เพิ่มอนุมูลอิสระให้กับผิวของเรา ทำร้ายเราต่างๆนาๆ ฮือๆ


💦ปัจจัยที่ 3 : การอาบน้ำที่นานเกินไป โดยเฉพาะการอาบน้ำอุ่น ตอนอาบก็เย็นสบายดีนะคะ แต่หลังอาบนี่สิ ผิวตึงเป๊ะมากๆ 


💋ปัจจัยที่ 4 : สบู่และเครื่องสำอางที่ไม่เหมาะกับสภาพผิวแห้ง เช่น ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาสำหรับคนผิวมัน นั่นเองคะ เพราะว่า ผลิตภัณฑ์เหล่านั้น เน้นที่จะชะล้างความมันออกจากใบหน้าของเรานะคะ แต่เราคนผิวแห้ง ยิ่งใช้ก็จะยิ่งแห้งๆๆ ทำร้ายผิวเรามากๆเลยคะ


💊ปัจจัยที่ 5 : ยาบางชนิด เช่น ยาในกลุ่มกรดวิตามินเอ เช่น กรดผลไม้ที่เราไปทำ ทรีทเม้นท์ กัน ซึ่งจะทำให้ผิวเราแห้งมากขึ้นนะคะ ดังนั้นหลังการทำ เราก็ควรมีตัวช่วยในการบำรุงผิวของเรา ให้ชุ่มชื้น มากยิ่งขึ้นคะ

จะดูแลผิวแห้งอย่างไร ให้สดใส ไม่แห้งกร้าน

1. ใช้สบู่หรือผลิตภัณฑ์อาบน้ำที่มีความอ่อนโยน ไม่ควรอาบน้ำบ่อยเกินกว่าวันละ 2 ครั้ง
2. ไม่ควรขัดผิวบ่อย ๆ เพราะจะยิ่งทำให้ผิวแห้งกร้าน
3. ทุกครั้งหลังอาบน้ำ ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื่น (moisturizer) ที่ออกแบบมาสำหรับผิวแห้ง
4. ในกรณีที่ผิวแห้งมาก อาจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ในรูปแบบที่เป็นครีม (creams) มากกว่าผลิตภัณฑ์รูปแบบโลชั่น (lotions) เนื่องจากครีมจะมีความเป็นน้ำมัน และจะกักเก็บความชื้นให้ผิวได้มากกว่า

ผิวมัน (Oily Skin)

          เป็นผิวที่น่าเห็นใจที่สุด กับสภาพอากาศประเทศไทย มักเกิดขึ้นในช่วยวัยรุ่น ช่วงที่ฮอร์โมนกำลังมีการเปลี่ยนแปลง ความร้อน และความชื้นของสภาพอากาศ นอกจากนี้ความเครียดก็ส่งผลทำให้ผิวมีความมันส่วนเกินได้เช่นกันผิวมีลักษณะ เงา มันวาว สามารถมองเห็นรูขุมขนได้ชัดเจน มีการผลิตน้ำมันในปริมานที่มากเกินไป คนผิวมันจะมีผิวที่ค่อนข้างหยาบ รูขุมขนใหญ่ และมองเห็นรูขุมขนได้ชัดเจน มีแนวโน้มที่เป็นสิวร่วมด้วย 
ลักษณะของผิวมัน: 
  • น้ำมันหล่อเลี้ยงผิวมากเกินไป
  • หน้ามันเยิ้มสมปรกง่าย
  • มีสิวเสี้ยน สิวหัวดำ
  • ผิวเงา มันวาว รูขุมขนกว้าง
  • รูขุมขนขนาดใหญ่ สามารถมองเห็นได้ชัดเจน
  • ผิวดูมันวาว จนบางครั้งอาจทำให้เกิดความหมองคล้ำ
  • ปัญหาสิวเป็นปัญหาเด่นของผิวมัน ไม่ว่าจะเป็นสิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวเสี้ยน สิวหัวดำ
  • การดูแลผิวมันให้ผิวพรรณของคุณมีสุขภาพดี
วิธีเช็ค เมื่อซับหน้าด้วยกระดาษซับมัน จะเห็นน้ำมันอย่างชัดเจนเป็นดวงๆ ส่วนใหญ่มาจากบริเวณจมูก หน้าผากและโหนกแก้ม ผิวดูหนา อาจมองเห็นเส้นเลือดไม่ชัดเจน

1. ผิวมันมักจะเกิดสิวได้ง่าย แต่ให้จำไว้ว่า การบีบสิวจะเป็นการกระตุ้น ทำให้สิวเกิดขึ้นมาอีก รวมถึงทำให้เกิดสิวอักเสบ และรอยด่างดำ
2. ไม่ควรล้างหน้าเกินกว่าวันละ 2 ครั้ง การล้างหน้าบ่อย จะทำให้ผิวขาดความชุ่มชื่น เป็นการกระตุ้นทำให้ต่อมไขมันสร้างน้ำมันออกมามากขึ้น
3. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาสำหรับคนผิวมัน
4. เลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน (noncomedogenic) ซึ่งจะช่วยป้องกันการเกิดสิวอุดตันได้

ผิวผสม (Combination Skin)

          ผิวผสม ระหว่างผิวธรรมดาหรือผิวแห้งกับผิวมัน มีการผลิตน้ำมันมากบริเวณ T-Zone (หน้าผากคางและจมูก) ส่วนบริเวณที่ผิวแห้งเกิดจากการขาดน้ำมัน ช่วงบริเวณโหนกแก้มและข้างแก้ม คนที่มีผิวชนิดนี้มักจะมีสิวหัวดำ บริเวณจมูก และมีสิวขึ้นบริเวณหน้าผากและคาง

ลักษณะของผิวผสม
  • ผิวแห้งบริเวณโหนกแก้มและข้างแก้ม
  • สิวผดขึ้นบริเวณหน้าผาก
  • รูขุมขนมักจะกว้างกว่าผิวธรรมดา และรูขุมขนมักจะเปิด
  • เนื่องจากรูขุมขนเปิด มักจะมีสิวอุดตันหัวดำ (blackhead) เกิดขึ้น โดยเฉพาะบริเวณทีโซน
  • ผิวมักจะมีความมันเงา
วิธีเช็ค
          หลังจากตื่นนอนตอนเช้า หากปรากฏน้ำมันบริเวณ T-Zone (หน้าผาก สันจมูก จนถึงปลายคาง) บนกระดาษซับมัน และผิวแห้งบริเวณแก้ม

ผิวแพ้ง่าย (Sensitive skin)

          ผิวที่ระคายเคืองง่ายและบอบบางมากๆ เช่น กระดาษทิชชู อากาศร้อน หรือแม้แต่ฝุ่น มีปัญหาแพ้ง่าย แดง ระคายเคืองง่ายต่อผลิตภัณฑ์ทั่วไป มักเกิดอาการ แห้งลอก บวมแดง เป็นผื่นแพ้ แสบรวมถึงคันลักษณะของผิวแพ้ง่าย

ลักษณะของผิวแพ้ง่าย
  • ผิวหน้าตีง แพ้ง่าย
  • ผื่นขึ้นและอักเสบง่าย
  • ระคายเคืองต่อผลิตภัณฑ์ทั่วไป
  • สุขภาพผิวไม่แข็งแรง
  • ผิวมีการอักเสบได้ง่าย ลักษณะเด่นชัดของการอักเสบ คือ ผิวแดง คัน แสบร้อน รวมถึงแตกแห้ง
  • มักเกิดหลังจากการใช้เครื่องสำอาง หรือสิ่งที่มีการสัมผัสกับผิวโดยตรง
  • ถ้าคุณรู้ว่าผิวของคุณมีแนวโน้มที่จะแพ้ง่าย คุณควรหลีกเลี่ยงสิ่งที่กระตุ้นการแพ้ โดยเฉพาะสารและองค์ประกอบบางชนิดในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ

วิธีเช็ค  ผิวที่ระคายเคืองง่ายต่อผลิตภัณฑ์ทั่วไป มักเกิดอาการแพ้บ่อยๆ สุขภาพผิวไม่แข็งแรง
ผิวแพ้ง่าย (sensitive skin)

สามารถนำรหัสสมาชิก 47024879 ไปซื้อได้ที่สำนักงานธุรกิจกิฟฟารีนทั่วประเทศ
สั่งซื้อออนไลน์ หรือติดต่อสอบถามข้อมูล






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ขอบคุณมากนะคะ สำหรับทุกๆ ความคิดเห็น